Social Icons

บวบลม

บวบลม

ชื่ออื่น  
เถาพุงปลา (ภาคตะวันออก ระยอง) โกฐพุงปลา พุงปลาช่อน (กลาง) จุกโรหินี
ชื่อวิทยาศาสตร์  
Dischidia major (Vahl) Merr.

ชื่อวงศ์  
Asclepiadaceae

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
    ไม้ล้มลุก ลำต้นเลื้อยเกาะพันกับต้นไม้อื่น รากงอกออกตามข้อแต่ละข้อ ของเถา สำหรับยึดเกาะ เถากลมสีเขียว ใบเดี่ยวเรียงตรงข้ามกันเป็นคู่ หรือออกใบเดียว ผิวเรียบ ใบอวบน้ำ ใบมีรูปร่าง 2 แบบ คือ แบบแรกมีรูปร่างคล้ายถุง กว้าง 2-2.5 เซนติเมตร ยาว 5-12 เซนติเมตร จะแบนเป็นเหลี่ยม ด้านนอกมีสีเขียว ด้านในมีสีม่วง แบบที่สองเป็นใบธรรมดา รูปใบค้อนข้างกลม ปลายใบมน มีติ่งแหลมสั้นๆ ดอกออกเป็นช่อขนาดเล็ก 6-8 ดอก ออกตามง่ามใบ ตรงข้ามกับใบ กลีบดอกมี 5 กลีบ โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอดสั้นๆ และป่องเบี้ยวไปอีกข้างหนึ่ง ตรงปลายเป็นรูปกรวย ที่ปากท่อดอกแต้มด้วยสีม่วง  มีขนอยู่ด้านนอก ตามขอบกลีบดอกมีขน กลีบเลี้ยงมี 5 กลีบ  ผลเป็นฝัก ผิวขรุขระ ฝักยาว 5-7.5 เซนติเมตร พบตามป่าดงดิบเขาทั่วไป

สรรพคุณทางสมุนไพร
ยาพื้นบ้าน  ใช้ ทั้งต้น รสฝาดสุขุม ต้มน้ำดื่ม แก้ปวดท้อง เนื่องจากโรคกระเพาะอาหารอักเสบ ใบ รสฝาดสุขม ใช้เป็นยาฝาดสมาน แก้ท้องร่วง แก้ท้องเดิน แก้บิด แก้อาเจียน แก้ปวดเบ่ง มูกเลือด เสมหะผิดปกติ ใช้ภายนอกเป็นยาสมานแผล รากรสฝาดสุขุม แก้ท้องร่วง แก้อาเจียน แก้บิด แก้ปวดเบ่ง แก้เสมหะพิการ สมานแผล แก้ไข้เพื่อโลหิต แก้ลมปลายไข้ ใช้ภายนอกเป็นยาฝาดสมาน รากนำมาเคี้ยวกับพลู เป็นยาแก้ไอ

นิทานสอนเด็ก นิทานอีสป นิทานก่อนนอน

สถิติการเข้าชม