พุงแก
ชื่ออื่น หนามพุงแก, พุงขี้, น้ำนอง, เกี่ยวคอไก่ (โคราช), ไซซู (เลย), ขี้กาต้น, หนามขี้แรด (เหนือ), เดือยไก่ (สตูล), เมาขี้ (ปราจีนฯ), สายชู, สายซู่ (ขอนแก่น)
ชื่ออื่น หนามพุงแก, พุงขี้, น้ำนอง, เกี่ยวคอไก่ (โคราช), ไซซู (เลย), ขี้กาต้น, หนามขี้แรด (เหนือ), เดือยไก่ (สตูล), เมาขี้ (ปราจีนฯ), สายชู, สายซู่ (ขอนแก่น)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Capparis siamensis Kura.
ชื่อวงศ์ CAPPARIDACEAE
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
เป็นไม้เถายืนต้นทรงพุ่มสูง 3-8 ม. กิ่งอ่อนสีเทาหรือน้ำตาลมีขน เมื่อแก้ไม่มีขน มีหนามเล็กเรียวบางโค้งเล็กน้อยออกตามข้อ ใบทรงกลมปลายแหลมกว้าง 3-5 ซม. เส้นใบด้านท้องสีน้ำตาลเหลือ ดอกช่อออกตามง่ามใบ สีเขียวขาว มีขนมีจุดสีเหลืองหรือแดง ผลกลมรีๆเปลือกหนาเป็นปุ่มๆทั่วไป สุกสีแดง
สรรพคุณทางสมุนไพร
ใบ รสเฝื่อนเมา แก้ไข้ฝีกาฬ แก้ไข้สันนิบาต แก้ตะคริว ต้มอาบแก้ผดผื่นคันดอก รสขื่นเมา แก้โรคมะเร็งลูก รสขื่นปร่า แก้เจ็บคอ แก้คออักเสบต้น รสขื่นปร่า แก้ฟกบวมเนื้อไม้ เผาเป็นถ่าน รสเย็น สีฟันทำให้ฟันขาวสะอาด
ราก รสขมขื่น แก้ไข้เพื่อลม ขับลมในท้อง แก้ไข้ทุกชนิด แก้ร้อนใน
เป็นไม้เถายืนต้นทรงพุ่มสูง 3-8 ม. กิ่งอ่อนสีเทาหรือน้ำตาลมีขน เมื่อแก้ไม่มีขน มีหนามเล็กเรียวบางโค้งเล็กน้อยออกตามข้อ ใบทรงกลมปลายแหลมกว้าง 3-5 ซม. เส้นใบด้านท้องสีน้ำตาลเหลือ ดอกช่อออกตามง่ามใบ สีเขียวขาว มีขนมีจุดสีเหลืองหรือแดง ผลกลมรีๆเปลือกหนาเป็นปุ่มๆทั่วไป สุกสีแดง
สรรพคุณทางสมุนไพร
ใบ รสเฝื่อนเมา แก้ไข้ฝีกาฬ แก้ไข้สันนิบาต แก้ตะคริว ต้มอาบแก้ผดผื่นคันดอก รสขื่นเมา แก้โรคมะเร็งลูก รสขื่นปร่า แก้เจ็บคอ แก้คออักเสบต้น รสขื่นปร่า แก้ฟกบวมเนื้อไม้ เผาเป็นถ่าน รสเย็น สีฟันทำให้ฟันขาวสะอาด
ราก รสขมขื่น แก้ไข้เพื่อลม ขับลมในท้อง แก้ไข้ทุกชนิด แก้ร้อนใน