Social Icons

อังกาบ

imageimage

ชื่อวิทยาศาสตร์   Barleria cristata L.
ชื่อวงศ์    ACANTHACEAE
ชื่ออื่น ก้านชั่ง คันชั่ง ลืมเฒ่าใหญ่ ทองระอา ทองระย้า อังกาบกานพลู
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ต้นจัดเป็นไม้พุ่มเตี้ยขนาดเล็ก มีลำต้นเป็นข้อ มีความสูงประมาณ 1-1.5 เมตร กิ่งก้านและลำจะมีขนสีเหลืองอ่อนโดยเฉพาะตามข้อ ไม่มีหนามเหมือนต้นอังกาบหนู เป็นไม้ที่ชอบแสงแดดปานกลาง เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนหรือดินร่วนปนทราย ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการชักชำกิ่ง และการใช้เมล็ด
ใบลักษณะของใบคล้ายรูปหอก ปลายใบเรียวแหลมหรือยาว โคนใบเรียวสอบ ขอบใบเรียบ แผ่นใบมีขนสั้นนุ่มกระจายอยู่ทั้งสองด้าน โดยเฉพาะตามเส้นใบ ใบมีความยาวประมาณ 3-12 เซนติเมตร และกว้างประมาณ 2-5 เซนติเมตร ใบออกตรงข้ามกันเป็นคู่ๆ ก้านใบสั้น มีความได้ยาวประมาณ 0.3-2 เซนติเมตร ใบตามกิ่งจะสั้นและมีขนาดเล็กกว่าตามลำต้น
ดอกออกดอกเป็นช่อคล้ายช่อเชิงลดสั้นๆ หรือเป็นกระจุกค่อนข้างแน่นที่ปลายยอด หรือบริเวณใกล้ปลายยอด ลักษณะของดอกอังกาบเป็นรูปทรงกลม หรือรูปแตร ดอกมีสีม่วง ส่วนที่โคนช่อดอกจะมีใบประดับรูปขอบขนานยาวหรือรูปใบหอก ยาวประมาณ 0.8-1.5 เซนติเมตร ขอบใบเว้า มีกลีบเลี้ยง 4 กลีบเรียงซ้อนเหลื่อมกัน มีขนาดไม่เท่ากัน คู่นอกจะมีขนาดใหญ่กว่า ลักษณะเป็นรูปไข่แกมรูปขอบขนาน มีความยาวประมาณ 1.5-2 เซนติเมตร ขอบจักเป็นติ่งหนาม ปลายแหลมยาว ส่วนกลีบคู่ในลักษณะเป็นรูปใบหอกหรือรูปแถบ ยาวประมาณ 6-7 มิลลิเมตร มีปลายแหลมยาว กลีบดอกคล้ายคล้ายรูปปากเปิด หลอดกลีบยาวประมาณ 3-4 เซนติเมตร ดอกอังกาบมีกลีบดอก 5 กลีบ มีสีม่วง สีชมพู หรือสีขาว กลีบบนมี 4 กลีบ ลักษณะเป็นรูปไข่กลับยาวประมาณ 2 เซนติเมตร เรียงซ้อนเหลื่อมกันอยู่ ส่วนกลีบล่างจะแผ่กว้างกว่ากลีบบนเล็กน้อย แต่มีความยาวเท่ากับกลีบบน มีเกสรตัวผู้ 4 อัน ติดอยู่ที่โคนกลีบดอก ยาว 2 อัน และสั้น 2 อัน เกสรอันยาวจะยื่นเลยปากหลอดกลีบมาเล็กน้อย ก้านเกสรจะมีขนหนาแน่นที่โคน ส่วนอับเรณูจะยาวประมาณ 3 มิลลิเมตร โดยเกสรตัวผู้จะเป็นหมัน 1 อัน รังไข่เป็นรูปขอบขนานแกมรูปกรวย เกลี้ยง มีอยู่ 2 ช่อง แต่ละช่องจะมีออวุลอยู่ 2 เม็ด ส่วนก้านเกสรตัวเมียจะมีลักษณะเรียวยาว มีความยาวได้ประมาณ 4 เซนติเมตร ยอดเกสรเรียบ โดยอังกาบมักออกดอกช่วงเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคม
ฝักลักษณะเป็นฝักรูปยาวรี ปลายและโคนฝักแหลม ส่วนปลายฝักจะกว้างกว่าส่วนโคนฝัก ในฝักอังกาบ มีเมล็ด 4 เมล็ด เมล็ดแบนกลม มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 4 มิลลิเมตร มีขนแบนราบ
สรรพคุณทางสมุนไพร
ดอก รสหวานร้อน ต้มหรือชงน้ำร้อนดื่ม บำรุงธาตุไฟทั้ง 4 แก้เสบหะ
ราก ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ ใช้เป็นยาแก้ระดูขัด ฟอกโลหิตระดูของสตรี แก้ประจำเดือนคั่งค้างเป็นลิ่มเป็นก้อน
ช่วยแก้อาการเจ็บปวดเมื่อยบั้นเอว ใช้แก้พิษงู พิษตะขาบ และแมลงป่องต่อย
ใบ รลขมเฝื่อน ต้มหรือชงน้ำร้อนดื่ม แก้หวัดในเด็ก แก้ไข้ แก้ปวดตามข้อ แก้บวม แก้คัน แก้ท้องผูก แก้อาหารไมย่อย

นิทานสอนเด็ก นิทานอีสป นิทานก่อนนอน

สถิติการเข้าชม